ระบบควบคุมรถแทนผู้ขับขี่ (DRIVER OVERRIDE SYSTEMS) ระบบนี้แม้จะดูคล้ายกับระบบยานยนต์ไร้คนขับ แต่มันจะไม่ทำงานจนกว่าเซนเซอร์ตรวจพบว่า ผู้ขับขี่กำลังตัดสินผิดพลาด และมีแนวโน้มที่จะเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะสั่งงานหักล้างกับคำสั่งของผู้ขับขี่ทันที อาทิ ผู้ขับจงใจ คามิคาเซ เข้าหารถยนต์อีกคันหนึ่งด้วยการกดคันเร่งมิด เซนเซอร์ป้องกันการชนตรวจจับเป้าหมายด้านหน้าจะส่งข้อมูลไปสั่งงานระบบเบรคให้ทำงานทันที และตัดการทำงานจากคันเร่ง แม้ว่าจะกดเท่าใดก็ไม่สามารถเร่งเครื่องได้ ต้องขอบคุณระบบสั่งงานด้วยไฟฟ้า (DRIVE BY WIRE) ที่ทำให้การทำงานแบบนี้เกิดขึ้นได้ 3. การใช้ข้อมูลชีวภาพแทนกุญแจ (BIOMETRIC VEHICLE ACCESS) ระบบนี้จะทำให้การพกกุญแจรถเป็นเรื่องล้าสมัย เพราะเพียงคุณแตะมือจับประตู รถก็จะรู้ทันทีว่าคุณเป็นเจ้าของรถผ่านทางลายนิ้วมือ ถ้าหากคุณใช้รถร่วมกับผู้อื่น มันก็สามารถที่จะปรับเบาะที่นั่ง กระจกมองหลัง มุมพวงมาลัย ให้เข้ากับผู้ขับขี่แต่ละคนได้ทันที ส่วนรีโมทนั้นในอนาคตอาจจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้ในหน้าที่ที่มากกว่าเดิม อาทิ ส่งรถไปหาที่จอด และเรียกรถกลับมารับ 4. ระบบแกะรอยการวิ่งของรถ (COMPREHENSIVE VEHICLE TRACKING) ระบบนี้จะนำเอาข้อมูลรูปแบบการขับขี่ของเราที่เก็บไว้ในหน่วยความจำของรถ อาทิ ความเร็วที่ใช้, แรงจี และระยะทางที่ขับขี่ในแต่ละวัน มาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อประเมินราคาในการต่อประกันภัยรถยนต์ คราวนี้แม้จะใช้รถยนต์รุ่นเดียวกัน แต่ใครขับดี ขับแย่ ราคาประกันก็จะไม่เท่ากัน เพราะความเสี่ยงต่างกันนั่นเอง ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ขับดีก็จ่ายน้อย 5.
This thread is archived New comments cannot be posted and votes cannot be cast u/ rakboonmeeacadmy · 4y รักษ์ บุญมี อะคาเดมี่ นำเสนอ 100 เรื่องเล่าตลกๆ สำหรับใช้ในคลาสเรียน บวก เรื่องเล่าสำหรับใช้ในคลาสเรียน วัฒนธรรมการให้บริการและบทเรียนสอนน้องๆ สำหรับการเป็นนักฝึกอบรม Cake day September 16, 2018 Reddit Inc © 2022. All rights reserved
ปี 2020 เป็นปีที่มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไป ทั้งรูปแบบการทำงาน การท่องเที่ยว การพบปะทางสังคม รวมไปถึงรูปแบบการเรียน แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้กลับเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ที่เข้ามาอำนวยความสะดวกและเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนด้วย บทความของ Inc ได้พูดถึง 7 เทรนด์เทคโนโลยียอดนิยมปี 2020 ในบทความ "These Are the 7 Biggest Things That Happened in Tech in 2020" จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน 1. การเชื่อมต่อผู้คนด้วย 'Zoom' Zoom แอปพลิเคชันสื่อสารผ่านวิดีโอกลายเป็นแอปฯ ที่นิยมไปทั่วโลกในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมื่อเราต้องทำงานหรือเรียนจากที่บ้าน Zoom จึงกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถเชื่อมต่อผู้คนเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมทางธุรกิจหรือการเรียนที่สามารถแชร์สไลด์ให้ทุกคนเห็นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานบางส่วนยังมีข้อกังวลถึงคุณสมบัติด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในการใช้งานแอปฯ ดังกล่าวอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ Zoom ต้องปรับปรุงต่อไป 2. นวัตกรรมล่าสุดในคอมพิวเตอร์กับ 'M1 Macs' มีคอมพิวเตอร์มากมายที่เปิดตัวในปีนี้ แต่สิ่งที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับสาวกของ Apple คือ การเปิดตัว Apple Silicon หรือชุดชิปที่ Apple พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งรุ่นแรกคือ M1 Mac ที่มีความน่าประทับใจในเรื่องของประสิทธิภาพ รวมไปถึงทิศทางการพัฒนาในอนาคตที่จะเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัท Intel เป็นผู้ผลิต Silicon-Chip ที่โดดเด่นมาตลอด แต่การเปิดตัว M1 Macs ถือว่าเป็นคู่แข่งสำคัญที่มาเขย่าวงการคอมพิวเตอร์ จนน่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ๆ ตามมาอีกอย่างแน่นอน 3.
ใช้เวลาเพียง 3. 5 วินาที เท่านั้น รู้แล้วสินะว่าไม่ใช่เล่นๆ นี่คือ 10 ทเรนด์ที่กำลังจะมาแรงในยุคเทคโนโลยีก้าวกระโดด หากมัวแต่หลับหูหลับตา รับรองว่ากลายเป็นคนหลงยุคอย่างแน่นอน
สมาร์ทโฟนพับได้ 'Foldable Devices' รูปแบบสมาร์ทโฟนที่สามารถพับได้อย่าง Samsung Z Fold2 และ Microsoft Duo ซึ่งก่อนหน้านี้เกิดข้อกังวลในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งาน แต่กลับกลายเป็นว่าเสียงตอบรับของคนที่ได้ลองใช้งานกลับมีกระแสที่ดี จนเป็นอีกหนึ่งเทรนด์มาแรงแห่งปี 4. การดูหนังออนไลน์กับ 'Streaming' วิดีโอสตรีมมิ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งชื่อที่เราคุ้นหูกันก็คือ Netflix แต่บริษัทที่ได้รับความนิยมอย่าง Netflix ก็เริ่มมีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นอย่าง Apple TV และ Disney ที่เปิดตัวในปี 2019 แต่ในปีนี้กลับมียอดผู้ติดตามมากกว่า 80 ล้านคน ซึ่งแน่นอนว่าวงการวิดีโอสตรีมมิ่งจะเติบโตขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง และในอีก 5 ปีข้างหน้าเราน่าจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นอีกเรื่อยๆ 5. การจัดงานออนไลน์ 'Online Events' งานอีเวนต์ทุกรูปแบบตั้งแต่การประชุมไปจนถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในปี 2020 ถูกจัดขึ้นผ่านรูปแบบออนไลน์ และถือว่าเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จมากกว่าการเชิญผู้คนมาพบเจอกันโดยตรงในสถานการณ์แบบนี้ และถึงแม้ว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติแล้ว การจัดงานอีเวนต์รูปแบบออนไลน์ก็ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมต่อไปอย่างแน่นอน 6.
ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์จากระยะไกล (REMOTE VEHICLE SHUTDOWN) ระบบนี้ปัจจุบันเริ่มใช้งานแล้วกับรถของค่าย จีเอม ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยรถจะถูกที่ติดตั้งระบบ ออนสตาร์ ทำให้ศูนย์ควบคุมสามารถรู้ว่ารถอยู่ที่ใด และสั่งดับเครื่องยนต์จากระยะไกลได้ ไม่ต่างจากที่สั่งระงับการใช้งานโทรศัพท์หากเกิดการโจรกรรม ต่อไปนี้คดีโจรกรรมรถยนต์ และการไล่ล่าด้วยความเร็วสูงของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะกลายเป็นอดีต 7. ระบบตรวจสอบสุขภาพผู้ขับขี่ (ACTIVE HEALTH MONITORING SYSTEM) ระบบนี้ริเริ่มโดย ฟอร์ด ในการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับตรวจสอบข้อมูลชีวภาพของร่างกาย โดยติดตั้งไว้กับสายเข็มขัดนิรภัย และบนพวงมาลัย ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ และจังหวะการหายใจ หากระบบตรวจสอบพบการทำงานที่ผิดปกติเฉียบพลัน อาทิ หัวใจวาย ก็จะสามารถพารถเข้าข้างทาง (หากทำงานร่วมกับระบบขับขี่ไร้คนขับ ก็จะพาไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด) พร้อมเรียกหน่วยกู้ชีพที่ใกล้ที่สุดทันที ระบบนี้นับว่าน่าจะชนะใจผู้ขับขี่สูงวัย และหากสามารถวัดปริมาณแอลกอฮอลในเลือดได้ก่อนจะสตาร์ทรถ ก็น่าจะทำให้อุบัติเหตุบนท้องถนนลดลงอย่างชัดเจน 8. ซูเพอร์คาร์ 4 สูบ ยุคสมัยของการลดความจุ และการพัฒนาตัวถังน้ำหนักเบา ทำให้รถยนต์นั่งจะใช้เครื่องยนต์ความจุน้อยลงเรื่อยๆ เครื่องยนต์ 3 สูบจะได้รับความนิยมมากขึ้นในรถยนต์คอมแพคท์ ในขณะที่รถยนต์ขนาดใหญ่แต่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ พ่วงเทอร์โบ กลายเป็นสิ่งสามัญมากขึ้น ดังจะเห็นได้จาก บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ที่ขายในบ้านเราในปัจจุบันนั้นเป็นเครื่อง 4 สูบ ไปเกือบหมดแล้ว แต่สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ แต่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต คือ ซูเพอร์คาร์ที่ทำความเร็วระดับ 300 กม.
เทรนด์เทคโนโลยีใหม่แห่งปี 2020 โลกของเราจะก้าวล้ำแค่ไหน จะมีอะไรทำให้ชีวิตของเราสะดวกขึ้นบ้าง มาดูกันเลย เมื่อเวลาผ่านไป โลกเราก็จะยิ่งมีการพัฒนาในด้านเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ มีอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทันสมัยให้ใช้งานทำให้ชีวิตมีความสะดวกสบายกันมากกว่าเดิม ส่งผลชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา และเนื่องจากเรากำลังจะก้าวเข้าสู่ปี 2020 ก็ถือว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาคาดการณ์อนาคตกันว่าในปี 2020 นี้เราน่าจะได้เห็นเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาบ้าง ไปดูกันเลยกับ 8 เทรนด์เทคโนโลยีใหม่แห่งปี 2020 1. เครือข่ายมือถือ 5G เทคโนโลยี 5G ที่จะทำให้โลกของเราก้าวเข้าไปสู่ยุคของ Internet of Things โลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งเครือข่าย 5G จะเริ่มถูกนำมาใช้งานกันแพร่หลายมากขึ้นทั้งในด้านของผู้ให้บริการเครือข่ายและด้านของแบรนด์มือถือที่เริ่มผลิตมือถือรองรับ 5G ออกมากันมากขึ้นในปี 2020 นี้ เทคโนโลยี 5G นั้นจะมีการพัฒนาประสิทธิภาพจาก 4G ในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความเร็วสูงสุดที่มากกว่า รองรับจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อในพื้นที่เดียวกันมากขึ้น มีความเสถียรในการเชื่อมต่อมากกว่าเดิม ประหยัดพลังงานมากขึ้น ตอบสนองได้เร็วขึ้น รวมทั้งการใช้งาน eSIM ก็จะแพร่หลายมากขึ้นด้วยเช่นกัน 2.